สวัสดีครับ ผมจะมาเล่าเรื่องการเตรียมตัวเป็นคุณพ่อมือใหม่ ในแบบของผม ให้ทุกคนอ่านกันนะครับ ชีวิตผมก็คงเหมือนกับผู้ชายทั่วไปหลายคนบนโลกนี้ ที่ใช้ชีวิตสังคมเหมือนคนทั่วๆไป ที่เกิดมาก็ต้อง “ เรียน ทำงาน บวช แต่งงาน มีลูก “ ณ ตอนนี้ผมกำลังจะมีลูกแล้ว ! แล้วยังไงล่ะ
เราต้องทำตัวอย่างไรล่ะถ้าจะมีสมาชิกในครอบครัวของเราเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คน
เราต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?
เราต้องทำอะไรบ้าง ?
ต้องวางแผนอย่างไร ?
ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเท่าไร ? งง ?
มีเครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นในหัวเต็มไปหมด ไม่รู้คุณพ่อมือใหม่หลายท่านจะคิดเหมือนผมหรือป่าว แต่สำหรับผมแล้ว มันเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับผม สุดท้ายความคิดของผม ก็สรุปให้ว่า ที่เรากังวลอยู่นี้ก็คือ การตื่นตัวและตื่นเต้น ของตัวผมเอง 555 ก็แค่ผมอยากทำหน้าที่ของพ่อให้ดีที่สุด
เมื่อรู้ว่าภรรยาของผมกำลังตั้งท้อง
ตัวผมเองอายุ 30 ปี ภรรยาผม อายุ 27 ปี เราแต่งงานกันมาได้ 2 ปี ก็ใช้ชีวิตเรื่อยๆเหมือนคนปกติทั่วไปใน กทม. ผมทำงานอาชีพอิสระ ไม่มีเงินเดือน รายได้ไม่สม่ำเสมอ ส่วนภรรยาผมก็ทำงานบริษัท เราใช้ชีวิตกันแบบ Slow life ก็ไม่ได้วางแผนจะมีลูกกันจริงจังมากนัก เพียงแค่รู้สึกว่าช่วงอายุของเราควรเริ่มที่จะมีลูกได้แล้ว รวมถึงและเสียงบ่นข้างๆหูของเหล่าบรรดา คุณพ่อและคุณแม่ ของเราทั้งคู่ ว่า อยากมีหลานไว้อุ้มเล่นเหมือนคนข้างๆบ้านบ้าง ( รู้สึกกดดันอย่างบอกไม่ถูก 555 )
เช้าวันหนึ่งตื่นมา กับความงงๆ กับเสียงของภรรยาผมที่บอกว่า พี่ๆ น้องตั้งท้องแล้ว นี้ไง พร้อมยื่นอุปกรณ์การตรวจปรากฏว่า 2 ขีด และนี้คือจุดเปลี่ยนจาก ชีวิต Slow life กับการเป็นคุณพ่อมือใหม่ของผม
พาภรรยาไปพบแพทย์ตรวจว่าตั้งท้องจริงหรือไม่
เมื่อถึงวันหยุดผมได้พาภรรยาไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ชัด สรุปว่าคุณหมอบอกว่าภรรยาผมได้ตั้งท้อง 2 เดือนแล้ว ผมเองถามตัวเองว่า ผมดีใจไหม ก็ตอบได้เลยว่าดีใจครับ แต่ไม่สุดเพราะมันมีความคิดแทรกเข้ามาในสมองของผม ว่า มีลูกแล้ว แล้วยังไงต่อละ ? ต้องหารายได้เพิ่ม จะใช้ชีวิตเรื่อยๆไม่ได้อีกแล้ว เราต้องขยันขึ้น ทำงานเพิ่มขึ้น เพื่อลูกของเรา ทำให้ผมต้องนอนคิดหลายเรื่อง เพื่อวางแผนครอบครัว เนื่องจากมีหลายๆอย่างที่เรายังไม่ได้วางแผน
ตัดสินใจให้ภรรยาลาออกจากงานเพื่อเตรียมตัวมีลูก
อีก 1 เดือนต่อมาผมให้ภรรยาผมยื่นใบลาออกเพราะงานที่ภรรยาผมทำต้องยืนทั้งวันคงไม่ไหวแน่ๆ และถ้าภรรยาผมออกจากงาน รายได้หลักของเราต้องลดลง แต่รายจ่ายของเรายังเท่าเดิม คือ ค่าผ่อนรถ ค่าเช่าคอนโด ที่ค่อนข้างสูงรวมถึงรายได้ของผมไม่แน่นอน ผมและภรรยาเลยตัดสินใจ ย้ายของกลับบ้านต่างจังหวัด เพื่อลดค่าใช้จ่ายต่างๆและผมเองก็ต้องทิ้งอาชีพอิสระของผมใน กทม. เพื่อกลับไปตั้งหลักใหม่ที่บ้านเกิด
ตัดสินใจเปิดร้านขาย ชุดคลุมท้อง
ผมมีตึกแถว 3 ชั้นอยู่ 1 คูหา ซึ่งคุณพ่อและคุณแม่ผมซื้อไว้ให้ผมและภรรยา เราย้ายมาอยู่ได้สักประมาณ 1 เดือนแล้ว แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะจะลงทุนทำธุรกิจอะไรดี เพราะเราต้องการรายได้เพื่อมาใช้ในแต่ละวัน สุดท้าย นึกอะไรไม่ออก ภรรยาผมท้อง ก็เลยคิดจะเปิดร้านชาย ชุดคนท้อง เองสะเลยเพราะแถวนี้หาซื้อยากและราคาค่อนข้างสูง เลยเปิดขายเองดีกว่า ขายทั้งในร้านและขายออนไลน์ ซึ่งผมเองก็พอมีความรู้ทางด้านทำเว็บไซต์อยู่บ้าง ก็เลยเป็นที่มาของร้าน มามี่จิ๊ฟฟี่ ร้านเรา จำหน่าย เสื้อผ้าคนท้อง ชุดคลุมท้อง เสื้อให้นมลูก กางเกงคนท้อง เลกกิ้งคนท้อง บริการจัดส่งฟรีครับ
พาภรรยาไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล
ผมค้นหาใน google พยายามหาเลือกหาโรงพยาบาลเพื่อฝากครรภ์ เน้นใกล้บ้านและมีบริการดี รวดเร็ว ไม่ต้องรอคิวนาน แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงพอสมควร แต่ผมก็ยอมจ่ายเพื่อซื้อความสะดวกของเรา เพราะโรงพยาบาลนี้ชื่อเสียงค่อนข้างดี เราจะได้ไม่ต้องมากังวลภายหลัง เวลาใกล้คลอดจะได้ใช้เวลาเดินทางไม่นาน
เตรียมของใช้สำหรับลูกก่อนคลอด
หลังจากภรรยาผมตั้งท้องได้อายุครรภ์ประมาณ 6 เดือน ผมและภรรยาก็เริ่มค้นหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการเตรียมของใช้ก่อนคลอดและหลังคลอด จากใน google และคนใกล้ชิดที่เคยมีลูกมาแล้ว สรุปว่ามีของที่ต้องเตรียมเยอะมาก ผมจดเอาไปในโทรศัพท์ และพาภรรยาผมไปเลือกซื้อตามห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน ผมแบ่งของใช้ออกเป็น 4 หมวด คือพวก เสื้อผ้า เครื่องนอน อุปกรณ์อาบน้ำและทำความสะอาด และของใช้เบ็ดเตล็ดต่างๆผมเตรียมไว้ในใจประมาณ 20,000 บาท และเริ่มออกไปหาซื้อของเตรียมไว้ มีดังนี้ครับ
เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มสำหรับลูก
1 เสื้อและกางเกง สำหรับเด็กแรกเกิด มีหลายแบบให้เลือก ตั้งแต่ไม่ถึง ร้อยบาท จนถึงหลักพันบาท ผมเห็นราคาครั้งแรกถึงกับตะลึง โอ้ พระเจ้า! เสื้อผ้าเด็กทำไมมันแพงขนาดนี้ ตัวก็เล็กๆจะแพงอะไรหนักหนา ( คิดในใจครับ 555 ) หลักๆตั้งใจจะมาซื้อเสื้อป้าย ที่มีเชือกผูกด้านหน้า เพราะใส่ง่าย พอได้เลือกไปเลือกมาเท่านั้นแหละ ข้อมูลที่อ่านจากในอินเตอร์เน็ตมาหายหมดชุดนี้ก็สวย ชุดนั้นก็น่ารัก มีลายการ์ตูนด้วย ตัวนี้เป็นแบบใช้กระดุม ตัวนี้เป็นแบบใช้เชือกผูกหลัง แขนสั้น แขนยาว สรุปจัดไป สิบกว่าตัว คละแบบ คละสี
2 ผ้าอ้อม และ ผ้าห่อตัว ขนาดที่เป็นที่นิยมคือ 27x27 เตรียมไว้สัก 3 โหล มีผ้าหลายเกรดหลายราคา เลือกได้ตามชอบ
3 กางเกงผ้าอ้อม เอาไว้ใช้สลับผ้าอ้อมและผ้าออมสำเร็จรูป เตรียมไว้ 1 โหล
4 ผ้าอ้อมสำเร็จรูป หรือเรียกกันว่า แพมเพิส สำหรับเด็กแรกเกิด เอามา 2 ยี่ห้อ ห่อเล็กสุดเอามาลองใช้ก่อนเผื่อลูกแพ้ยี่ห้อไหนจะได้เปลี่ยน
5 ถุงมือและถุงเท้าเด็ก เอาไว้ใส่กันป้องกันลูกเอาเล็บข่วนหน้า เตรียมไว้สัก 3-4 คู่
6 หมวกเด็กอ่อน เอาไว้ใส่กันลมกันแดด ตอนออกไปนอกบ้าน เตรียมไว้สัก 2 ใบ
7 ผ้าขนหนู สำหรับเช็ดตัว ห่มนอนหรือรองนอน ส่วนตัวผมเตรียมไว้ 6 ผืน
เครื่องนอนสำหรับเด็ก
1 เบาะนอนสำหรับเด็ก เตรียมไว้สัก 1 ชิ้น เลือกแบบฟองน้ำแน่นๆ หนาๆ ไม่นุ่มจน เกิน ไปเพราะเวลานอนเด็กอาจจะจมลงไปหายใจลำบาก ที่ผมเห็นมีอยู่ 3 ขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ ราคา ตั้งแต่ประมาณ 300 – 1,500 ตามขนาดและลวดลาย ส่วนตัวผมเลือก ขนาดกลางเพราะ ขนาดเล็กเหมาะกับเด็กอายุ 0-3 เดือน ก็เลยประหยัดงบ ไปต้องซื้อเพิ่มอีกเอาขนาดกลางไปเลยจบ เผื่อโตจะได้ไม่ต้องมาหาซื้อเพิ่ม
2 หมอน ควรมีไว้ 2 แบบคือหมอนหนุน และหมอนหลุม เลือกใช้ตามความชอบของเด็ก
3 หมอนข้าง ควรมีไว้สัก 2 ใบ เอาวางไว้ด้านข้างตอนนอน ลูกจะได้อุ่นใจเหมือนมีแม่อยู่ใกล้ๆ
4 ผ้าห่ม ใช้ผ้าสำลีหรือผ้าขนหนูก็ได้
5 ผ้ายางกันเปียก 1 ผืน
6 มุ้งครอบสำหรับเด็ก 1 หลัง เอาไว้ครอบกันยุงเวลาเด็กนอนหลับ
7 เปลสำหรับเด็ก เอาไว้กล่อมลูกนอน แต่ผมได้ลองสอบถามจากคนใกล้ชิดที่เคยมีลูกมาแล้ว เค้าบอกว่าเค้าไม่ใช้เปลครับเพราะเวลาเดินทางไปต่างสถานที่ ลูกถ้าเคยนอนเปลจะติดเปล ทำให้ลำบากในการพกเปลไปไหนมาไหน ผมเลยลองจะไม่ใช้เปลให้ลูกนอนแค่ที่นอนพอครับ
8 รถเข็น สำหรับออกนอกบ้าน ( มีหรือไม้มีก็ได้ ) แต่ผมยังไม่ได้ซื้อเพราะกะไว้รอลูกโตอีกหน่อยค่อยใช้
อุปกรณ์อาบน้ำและทำความสะอาดเด็กอ่อน
1 ฟองน้ำ สำหรับอาบน้ำ 1 อัน มีหลายแบบให้เลือก แต่คนขายแนะนำ แบบที่เป็นฟองน้ำธรรมชาติสาหร่ายทะเล แต่ราคาค่อนข้างแพงกว่า ฟองน้ำทั่วไปอยู่เยอะ แต่เพื่อสุขภาพของลูกเรา อะไร ที่ว่าดีก็จัดมาครับ
2 สบู่และแชมพู สำหรับเด็ก มีทั้งแบบ 2 in 1 และแบบแยก หลายยี่ห้อ แต่ผมเลือกแบบ ที่เป็น ออร์แกนิค ครับ
3 โลชั่นทาผิว หรือเบบี้ออยล์
4 สำลีพันก้าน สำหรับซับในหูหรือรูจมูกเช็ดสะดือ 1 กระปุก
5 สำลีก้อน สำหรับเช็ดทำความสะอาด ตา หรือเช็ดก้นเด็ก 2
6 กระดาษชำระแบบยาวหนา
7 ทิชชูเปียก สำหรับเช็ดทำความสะอาดทั่วไป
8 อ่างอาบน้ำเด็ก พร้อมเก้าอี้นอนอาบน้ำ
9 แปรงผมหรือหวีสำหรับเด็ก 1 อัน
10 ที่ดูดน้ำมูก 1 อัน ใช้สำหรับเผื่อลูกเป็นหวัดและมีน้ำมูก
11 น้ำยาล้างขวดนม 1 ขวด สำหรับล้างทำความสะอาดขวดนม
12 แปรงล้างขวดนม 1 อัน สำหรับล้างก้นขวดนมจะได้สะอาดมากขึ้น
13 น้ำยาซักผ้าเด็ก 1 ขวด
14 สบู่เด็ก 2 ก้อน
15 แป้งเด็ก 2 กระป๋อง
ของใช้เบ็ดเตล็ดที่ควรมี
1 ปรอทวัดไข้ สำหรับหวัดไข้ลูกตอนไม่สบาย
2 เข็มกลัดซ่อนปลาย สำหรับใช้กลัดติดเสื้อผ้าทั่วไป
3 ที่ปั้มนมแม่ ใช้แบบปั้มมือ หรือแบบเครื่องก็สะดวกดี แต่ภรรยาผมเลือกใช้ ยี่ห้อ NEVI ปั๊มคู่ ไฟฟ้า/แบตเตอรี่ เพราะเน้น เสียงเงียบ เป็นปั้มคู่ สามารถใช้งานได้พร้อมกันทั้ง 2 ข้าง มีแบตเตอรี่ ใช้ขณะเดินทางในรถได้ และราคาก็ไม่แพงมาก
4 วิค สำหรับทาหน้าอก และหลังให้ลูก
5 เครื่องอบขวดนม สำหรับฆ่าเชื่อหลังทำคามสะอาดขวดนม ถ้ามีงบแนะนำใช้แบบอบแห้งไปเลยครับ
6 กระติกน้ำร้อน
7 ขวดนมและจุกนม ควรเตรียมไว้ประมาณ 4-6 ขวด มีหลายแบบให้เลือก แต่เราต้องเลือกแบบ 0- 3 เดือนนะครับสำหรับเด็กแรกเกิด จุกนมควรเลือกแบบที่กันลูกสำลักได้ด้วยอันนี้แนะนำครับ จำเป็นมาก ชอบยี่ห้อไหนลองหาดูครับ
8 ถุงเก็บน้ำนม สำหรับเก็บน้ำนมจากการปั้ม
9 แผ่นซับน้ำนม สำหรับซับน้ำนม
10 มหาหิงส์ มีสรรพคุณแก้ท้องอืด
11 เจลแปะลดไข้ สำหรับแปะหน้าผากตอนเด็กไม่สบาย
12 เสื้อเปิดให้นม สำหรับคุณแม่ เปิดให้นมลูกสะดวกยิ่งขึ้น ใช้คู่กับเสื้อในเปิดให้นม หรือผ้าคลุมให้นม
สรุปก็คือ วันเดียวหาซื้อไม่หมดครับ ต้องค่อยๆทยอยหาซื้อกันเก็บไว้ สำหรับผมและภรรยา ใช้เวลาออกหาซื้อประมาณ 3 รอบ งบที่เคยตั้งเอาไว้ในใจ ก็เกินไปเกือบเท่าตัว โดยไม่รู้ตัว 555 ก็ของใช้สำหรับเด็กมีแต่ของน่ารักๆ ทำให้คนที่เป็นพ่อเป็นแม่ อดไม่ได้ที่จะเลือกซื้อกัน “ใครจะไปรู้ว่าจะการที่เราจะไปเป็นพ่อของใครสักคน มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย “ พูดแล้วก็เริ่มเข้าใจความรู้สึกของคนที่เป็นพ่อ ที่เลี้ยงเรามาจนโต สำหรับตัวผมแล้วจะตั้งใจทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะครับ
หากคุณแม่ท่านไหนกำลังมองหา ชุดคลุมท้อง แฟชั่น น่ารักๆ ทันสมัย อย่าลืมแวะมาเยี่ยมชมร้าน MamyJiffy นะครับ
เรียบเรียงโดย mamyjiffy.com
หน้าที่เข้าชม | 1,088,615 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 467,895 ครั้ง |
เปิดร้าน | 15 พ.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |